วิธุรบัณฑิตบําเพ็ญสัจจบารมี (4)
ผู้ครองเรือนไม่ควรบริโภคอาหารที่มีรสอร่อยแต่ผู้เดียว ไม่ควรซ่องเสพถ้อยคำให้ติดอยู่ในโลก ที่ไม่เกื้อกูลต่อสวรรค์และนิพพาน เพราะถ้อยคำเช่นนั้น ไม่ทำให้ปัญญาเจริญได้เลย ผู้ครองเรือนพึงเป็นผู้มีศีล สมบูรณ์ด้วยวัตร ไม่ประมาท มีปัญญาเครื่องสอดส่องเหตุผล มีความประพฤติถ่อมตน ไม่เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว เป็นผู้สงบเสงี่ยม มีวาจาเป็นมิตร
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202
พระแม่เภรีคิดว่า “บัดนี้เกียรติคุณของท่านมหาบัณฑิตได้เป็นที่ประจักษ์แก่เหล่าข้าราชบริพารทั้งหลายแล้ว แต่เกียรติคุณของท่านมหาบัณฑิตจะปรากฏเพียงนี้หาควรไม่ เราจักต้องทำให้ปรากฏในท่ามกลางชาวเมืองทั้งสิ้น ให้เป็นประหนึ่งว่าประพรมน้ำมนต์รดทั่วมหาสมุทรทีเดียว”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201
พระแม่เภรีได้ฟังเหตุผลนั้นแล้ว จึงทูลถามถึงโทษของพราหมณ์เกวัฏเป็นลำดับต่อไป "ขอถวายพระพร ท่านปุโรหิตเกวัฏมีอุปการะแก่พระองค์มากทีเดียว ท่านเป็นผู้ฉลาดสามารถ เชี่ยวชาญในคัมภีร์พระเวท รอบรู้ในการทำนายทายทัก เรื่องสุบินนิมิต เรื่องฤกษ์ยาม โดยเฉพาะฤกษ์ยามในการยกทัพและในการเข้ารบ รู้แม้กระทั่งเสียงร้องของสัตว์ทั้งหลาย บุคคลเช่นท่านเกวัฏนี้หาไม่ได้ง่ายเลย"
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 193
สตรีทั้งสามนางจึงรีบพากันไปกราบถวายบังคมพระเจ้าจุลนี แล้วทูลเรื่องราวทั้งหมดตามที่พวกตนได้เห็นมา แต่ก็ไม่ลืมที่จะแปลความหมายในสิ่งที่พวกตนเห็นเหมือนอย่างที่พระนางนันทาเทวีตรัสไว้ จากนั้นจึงกราบทูลเสริมอีกว่า “ขอพระองค์อย่าได้ทรงลังเลพระทัยอยู่เลยเพคะ ทางที่ดีควรรีบฆ่ามโหสถเสียโดยเร็ว เพราะหากทรงชักช้าอยู่ก็จะมิทันการณ์นะเพคะ”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 187
พระเจ้าจุลนีตรัสว่า “ขอบใจเธอมาก พ่อบัณฑิต ฉันจะรอ ฝากเธอช่วยนำบรรณาการเหล่านี้ไปมอบให้ลูกหญิงของฉันด้วย” ตรัสดังนี้แล้ว ก็ทรงฝากทาสชายหญิง โค กระบือ ทองเงิน ผ้า ช้าง ม้า และรถที่ตกแต่งอย่างดี ให้มโหสถนำไปพระราชทานเป็นของกำนัลแด่พระราชธิดาปัญจาลจันที จากนั้นก็รับสั่งให้ตระเตรียมโภชนะสำหรับบำรุงเลี้ยงกองรถและกองราบอย่างอิ่มหนำสำราญ
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 186
พระราชาเหล่านั้นทรงสดับความจริงแล้ว ต่างพากันสวมกอดมโหสถด้วยความสำนึกในมหากรุณาของมโหสถ แล้วตรัสด้วยความซาบซึ้งใจว่า “พ่อมโหสถเอย...พ่อช่างเป็นที่พึ่งของพวกเราโดยแท้ เราเป็นหนี้บุญคุณพ่อมากเหลือเกิน จนมิรู้ว่าจะตอบแทนอย่างไร” ตรัสดังนี้แล้ว พระราชาทั้งหมดก็ทรงถอดเครื่องราชาภรณ์ที่ทรงประดับมาบูชาคุณมโหสถบัณฑิต
สร้างบุญเอาไว้ ช่วยต่ออายุขัยให้ยืนยาว
เธอป่วยเป็นมะเร็ง แพทย์บอกว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกเพียงไม่เกิน 6 เดือน จากการได้อ่านข้อปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง จากโรงพยาบาล เธอจึงได้มาปฏิบัติธรรมที่ธุดงคสถานล้านนา เธอรักษาตัวเองด้วยการ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ควบคู่ไปกับการักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ ปรากฏว่า เธอมีชีวิตต่อมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 4 ปีกว่าแล้ว …ผลแห่งบุญช่วยต่อชีวิตให้เธอ จริงหรือ
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 150
ครั้นแล้ว พระเจ้าวิเทหราชจึงทรงตวาดมโหสถว่า “มโหสถ ทำไมเจ้าจึงกล้าพูดกับเราได้ถึงเพียงนี้ ดูสิ...ใครๆเมื่อรู้ว่าพระเจ้าจุลนีจักทรงประทานพระราชธิดาให้เรา ต่างก็พากันพูดถึงแต่สิ่งที่เจริญเป็นมงคลแก่เรา แต่เจ้ากลับทำลายมงคลของเราเสีย เจ้านี่ช่างไม่รู้จักอะไรเสียเลย”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 149
พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับคำตอบของอาจารย์เสนกะ ก็ทรงดีพระทัยยิ่งนัก ท้าวเธอจึงลองตรัสถามอาจารย์ที่เหลือตามลำดับ ครั้นแล้วก็ทรงได้รับคำตอบในทำนองเดียวกันทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดกราบทูลทัดทานเลย เมื่อเป็นดังนี้ ท้าวเธอก็ทรงคลายความระแวงพระทัย และทรงปักพระทัยมั่นที่จะเสด็จไปปัญจาลนครตามคำทูลเชิญของพระเจ้าจุลนี
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 148
เมื่อมาถึงประตูชั้นแรก เกวัฏก็เอ่ยถามคนเฝ้าประตูว่า “ท่านมโหสถอยู่หรือไม่ เราจะพบได้อย่างไรกัน” ว่าแล้วก็รีบเดินตรงไป แต่กลับถูกยามเฝ้าประตูกั้นไว้ พลางกล่าวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “นี่อย่าส่งเสียงเอ็ดอึงไปสิ ถ้าท่านต้องการจะมาหาท่านผู้สำเร็จราชการ ก็จงมานิ่งๆ วันนี้ท่านบัณฑิตดื่มเนยใสอย่างแรง ฉะนั้นท่านจะพูดเสียงดังไม่ได้เป็นอันขาด”